จะเลือกซื้อแพดเดิลบอร์ดทั้งที ก็เหมือนเลือกคนรู้ใจ ต้องรู้อะไรบ้างนะ?
วันนี้เราจะมาช่วยไขข้อข้องใจ กับ 10 คำถามที่จะช่วยให้เพื่อนๆ เลือกบอร์ดคู่ใจ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะถ้าตัดสินใจผิดแล้วละก็ อารมณ์เหมือนคนอกหักดีๆ นี่เอง แล้วอะไรละคือสิ่งสำคัญที่ควรรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแพดเดิลบอร์ด มาดูกันค่ะ
คำถามที่ 1 : ใครพายบอร์ดนี้นะ?
บอร์ดที่จะซื้อคุณเล่นเพียงคนเดียวหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ไม่ยากเกินไปที่คุณจะเลือกบอร์ด แต่ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะแบ่งกันเล่นกับสมาชิกในครอบครัวล่ะ สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ น้ำหนักและส่วนสูงของผู้เล่น โดยที่ต้องคิดถึงคนตัวใหญ่ที่สุด หรือต้องประมาณจากสมาชิกทั้งหมดที่จะเล่นบอร์ดนี้ ว่าสามารถยืนบนบอร์ด เล่นแล้วสนุกกันได้ทั่วถึงทุกคน
คำถามที่ 2 : น้ำหนักและส่วนสูงเท่าไร?
น้ำหนักและส่วนสูงคือสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อบอร์ด เพราะถ้าคุณเลือกบอร์ดที่รับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม มันจะช่วยให้คุณสนุก มั่นใจและมั่นคงในการยืน รู้ถึงเสถียรภาพที่ดีของตัวบอร์ดที่ทำงานได้ดังใจสั่ง ซึ่งมันจะแย่มากเมื่อคุณตัดสินใจเลือกซื้อบอร์ดผิดขนาด
ถ้าบอร์ดเล็กหรือแคบเกินไป เวลายืนพายก็จะไม่มั่นคง เกร็งไปหมด ทำให้คุณล้มและตกน้ำได้ง่ายและบ่อยครั้ง จนอยากจะถอดใจ แต่ถ้าหากคุณเลือกซื้อบอร์ดที่มีขนาดใหญ่เกินไป การควบคุมบอร์ดก็จะยาก และใช้แรงในการพายเยอะไปอีก โดยเฉพาะเมื่อเจอลมแรงๆ รับรองว่าเหนื่อยกว่าเดิมแน่นอน
คำถามที่ 3: ระดับความสามารถของผู้พาย?
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพาย SUP มือใหม่ ระดับกลาง หรือระดับสูงก็ตาม มีคำแนะนำพื้นฐานสามข้อที่ต้องจำไว้ คือ:
1. บอร์ดยาว = เร็ว
ตัวบอร์ดที่ยาว จะไหลลื่นได้ดีกว่าบอร์ดสั้น
2. บอร์ดกว้าง = เสถียร
ตัวบอร์ดที่กว้าง จะทำให้คุณยืนได้เสถียร มั่นคงมากกว่า
3. บอร์ดสั้น = เลี้ยวง่าย
ตัวบอร์ดที่สั้นกว่า จะช่วยให้การเลี้ยวมีความคล่องตัว และเลี้ยงได้ง่ายกว่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรลองก่อนซื้อ! เราขอแนะนำให้คุณทดลองพายบอร์ดสัก 2-3 แบบก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อเปรียบเทียบให้รู้ถึงความแตกต่างของแต่ละบอร์ด การลองจะช่วยตอบใจตัวคุณได้ว่ามันใช่ไหม บอร์ดแบบไหนทำให้คุณยืนแล้วมั่นใจ ยืนสบาย ง่ายต่อการทรงตัวและการควบคุม ฉะนั้นถ้าลองได้ให้ลอง แล้วพายหลายๆรอบก่อนเลยว่าใช่หรือยัง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
คำถามที่ 4: คุณซื้อบอร์ดเพื่ออะไร กิจกรรมแบบไหน?
คุณต้องทราบถึงความแตกต่างของแพดเดิลบอร์ด แต่ละประเภทว่าแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับกิจกรรมประเภทไหน เช่น พายเพื่อการท่องเที่ยว Touring, เพื่อไปโต้คลื่นในทะเล หรือจะใช้เพื่อการแข่งขัน ซึ่งมาตรฐานโลกเค้าแบ่งประเภทของแพดเดิลบอร์ดให้เข้าใจง่ายๆ ตามนี้เลยค่ะ
– All Round Paddle Board
ตัวเลือกที่ดีสำหรับนักพายมือใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เหมาะกับทุกสภาพน้ำ ไม่ว่าจะน้ำนิ่ง เรียบแบบแม่น้ำ, เขื่อน, บึงก็ได้ หรือจะเอาไปเล่นในทะเลที่มีคลื่นก็ดี
ลักษณะของบอร์ด All-Round มีรูปทรงบอร์ด ที่หัวและท้ายโค้งมน ตัวบอร์ดจะกว้าง และมีความหนา ทำให้นักพาย SUP มือใหม่ สามารถยืนทรงตัวได้ค่อนข้างดี รู้สึกมั่นคง นอกจากนี้บอร์ดประเภทนี้ยังเป็นบอร์ดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นไม่ว่าจะสายชิล สายท่องเที่ยว หรือจะสายซนออกไปล่าคลื่นเซิร์ฟก็ได้นะคะ
– Touring Paddle Board
บอร์ดที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง ทั้งทางใกล้หรือทางไกล ทั้งในน้ำเรียบ หรือออกทะเล
ลักษณะของบอร์ดประเภท Touring จะมีหัวเรียวแหลม เพื่อให้บอร์ดสามารถแหวกน้ำได้ดีขึ้น ด้านท้ายบอร์ดตัด ตัวบอร์ดจะมีความกว้าง เพื่อให้ผู้พายสามารถทรงตัวได้ง่ายขึ้น ยืนได้มั่นคง ยืนพายเป็นเวลานาน ทำให้สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้นานและไกลโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า แถมตัวบอร์ดยังออกแบบให้มีช่องใส่ของสามารถบรรทุกสัมภาระได้ เพื่อตอบโจทย์การเดินทางของนักพายที่ต้องการออกไปท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติได้ไกลมากขึ้น
– Racing Paddle Board
บอร์ดนี้ออกแบบมาสำหรับการแข่งขัน ที่เหมาะทั้งในน้ำเรียบ downwind หรือในทะเล
ลักษณะของบอร์ด มีความเรียว ยาวและแคบ กว่าบอร์ดประเภทอื่นๆ ทำให้มีประสิทธิภาพในความเร็วที่มากขึ้น ด้วยความยาวของตัวบอร์ดที่ยาว 12-14 ฟุต อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเลี้ยวยากกว่าบอร์ดประเภทอื่นๆ
– Surf SUP Board
บอร์ดประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นทั้ง SUP และ Surf ลักษณะโดยทั่วไปจะคล้ายบอร์ด All-round แต่หัวและท้ายจะเรียวกว่า มีปลายบอร์ดที่โค้งงอนขึ้นมากกว่า (Rocker) และตัวบอร์ดจะแคบกว่า จึงทรงตัวยากกว่า แต่ใช้โต้คลื่นได้ค่อนข้างดี
เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเล่นกระดานโต้คลื่นมากขึ้น ซึ่งอาจจะยืนได้ง่ายกว่ากระดานโต้คลื่น (Surf Board) เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่า และมีไม้พายเป็นผู้ช่วยในการทรงตัว
นอกจากนี้ SUP Board ยังถูกนำมาใช้งานและประยุกต์ใช้กับกีฬาอื่นๆ ได้อีก เช่น นำมาเล่นโยคะ เป็น SUP Yoga , นำ SUP ไปตกปลา และยังมีการออกแบบบอร์ดให้พิเศษขึ้นสำหรับการพายเป็นกลุ่มแก๊งบนบอร์ดขนาดใหญ่พิเศษ หรือจะพาสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างน้องสุนัขไปท่องโลกกว้างด้วยกัน ก็ได้นะคะ
คำถามที่ 5: คุณจะใช้บอร์ดที่ไหน?
น้ำนิ่ง ในบึง ทะเลสาบ แม่น้ำ หรือจะพายในทะเล นี่เป็นอีกสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อบอร์ด เพราะว่าบอร์ดแต่ละประเภทจะมีจุดเด่น และจุดด้อยของตัวบอร์ดในการพายบนน้ำแต่ละประเภทที่แตกต่างกันไป เช่น หากคุณจะพายในทะเลเป็นหลัก แต่คุณกลับได้บอร์ด Sprint หรือ Waterline ของ Starboardsup ไปละก็ รับรองว่าการพายของคุณจะไม่สนุกอย่างแน่นอน เพราะจุดเด่นของบอร์ดสองตัวนี้ เค้าออกแบบ ศักยภาพที่ดีเพื่อการพายบนน้ำเรียบ น้ำนิ่งๆ ถ้าเลือกผิดชีวิตเปลี่ยนแน่นอน
คำถามที่ 6: คุณมีการจัดเก็บและการขนส่งอย่างไร
หากคุณพักอาศัยอยู่คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือว่าคุณไม่มีรถยนต์ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้บอร์ดแบบสูบลม inflatable board ซึ่งบอร์ดจะมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางวิเศษ ที่มีล้อ สายสะพายเป้ และที่สูบลมแบบสองทาง (พร้อมมีพื้นที่เหลือเพื่อสำหรับใส่เสื้อผ้าของคุณได้อีกด้วยนะ) นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ และอีกเหตุผลในการเลือกซื้อบอร์ดแบบเป่าลม ก็คือน้ำหนักบอร์ดที่เบา ยกและพกพาได้สะดวก ซึ่งถ้าหากคุณมีรถและใช้งานบอร์ดบ่อยครั้ง คุณสามารถสูบลมบอร์ดขึ้นรูปไว้ได้ และยังผูกมัดบอร์ดติดบนหลังคารถเพื่อพร้อมเดินทางก็ได้อีกด้วย
ซึ่งข้อเสียของบอร์ดแบบเป่าลม สำหรับมือใหม่หัดพายก็คงจะเป็นเรื่องสภาพลมฟ้าอากาศ ถ้าหากคุณเจอสภาพลมที่แรงมากๆ ก็จะอาจทำให้การพายบอร์ดสู้ลมยากขึ้น แต่ว่าทาง Starboard ก็ตอบโจทย์ข้อนี้ได้โดยคุณสามารถเลือกบอร์ดสูบลม แบบ TOURING Double Chamber หรือ AIRLINE Inflatable ที่ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนพายบอร์ดแข็ง สามารถช่วยให้คุณพายต้านลมได้ง่ายมากขึ้น
คำถามที่ 7: คุณแข็งแกร่งแค่ไหน?
ลองคิดถึงตอนที่คุณจะต้องยกบอร์ดขึ้น-ลงจากรถ แล้วไหนจะยกขึ้นลงน้ำอีกละ ถ้าคุณจะเลือกซื้อบอร์ดแข็ง คุณควรจะเลือกดูบอร์ดที่มีน้ำหนักเบา ทดลองยกบอร์ดก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถยกบอร์ดขึ้นลงได้ด้วยตัวเองได้ ซึ่งบอร์ดของสตาร์บอร์ดบางรุ่น จะมีสายสะพายไหล่ในตัวช่วยทำให้คุณสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเดินถือไม้พาย ผ้าขนหนู และขวดน้ำไปยังชายหาดได้แบบสบายๆ
คำถามที่ 8: คุณมีงบประมาณเท่าไหร่?
อีกข้อสำคัญของคนส่วนใหญ่ที่กำลังตัดสินใจที่จะซื้อบอร์ด หากคุณมีงบประมาณที่ไม่สูงมาก ลองเปรียบเทียบคุณภาพของบอร์ดและราคาว่าคุ้มค่าหรือเปล่ากับเงินที่ต้องเสียไป และถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะตัดสินใจเลือกบอร์ดรุ่นไหนดี บอร์ดมือสองอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ แต่อย่าลืมดูก่อนนะค่ะว่าสภาพบอร์ดที่ได้มาคุ้มค่ามากน้อยกว่าบอร์ดใหม่มือหนึ่งหรือเปล่า
คำถามที่ 9: อุปกรณ์อื่นๆ ไม้พาย, สายรัดข้อเท้า และชูชีพ พร้อม?
โดยทั่วไปมีรูปร่าง และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกใช้เพื่อการใด
ซึ่งไม้พายของทาง Starboard จะมีให้คุณเลือกหลากหลาย เช่นหากคุณไม่ได้เล่นเพื่อการโต้คลื่น ให้ดู LIMA ถ้าโต้คลื่นเป็นบางครั้งหรือบ่อยครั้ง ให้เลือก ENDURO
ส่วนไม้พายแบบคาร์บอนเป็นเทคโนโลยีที่เบาและแพงที่สุด รองลงมาคือ Balsa ตามด้วย TikiTech แล้วก็ Tufskin เลือกดูแบบที่ดีที่สุดที่คุณสามารถจ่ายได้ หรือแบบที่คุณชอบ
ตัวด้ามพายก็ยังมีให้เลือกทั้งแบบ Fixed ตามขนาดความสูงของคุณเอง หรือหากคุณจะต้องใช้ร่วมกันกับคนในครอบครัว ก็เลือกซื้อแบบปรับได้ 2 ชิ้น แล้วถ้าคุณชอบเดินทางบ่อยๆ ละก็ เค้ามีแบบถอดประกอบ 3 ชิ้น สามารถปรับระยะได้ด้วยนะ
แถมขนาดใบพาย ก็ยังมีให้เลือกทั้งที่มีขนาดใบเล็กและใบใหญ่ ซึ่งขนาดใบนี้ก็จะอยู่ที่ความถนัด ถ้าใช้ใบใหญ่มากเกินไปคุณก็จะเมื่อยเร็วขึ้น และอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ไหล่ได้มากกว่า
แต่ข้อควรจำ ยิ่งไม้พายของคุณเบาเท่าไหร่ มันก็จะช่วยให้คุณสามารถมีความสุขอยู่บนน้ำได้นานมากขึ้น
สายรัดข้อเท้าช่วยชีวิต
สายรัดข้อเท้าก็ต้องเลือกที่เหมาะสม ตามการใช้งานเหมือนกันนะคะ
1. การพายน้ำนิ่ง พายแข่ง ควรใช้ COILED LEASH สายรัดแบบสปริงคอยด์ จะเหมาะสมและสะดวกที่สุด
2. การพายโต้คลื่น พายทั่วไป ควรใช้ สายรัดข้อเท้าแบบสายตรง ควรเลือกให้มีความยาวเท่ากับขนาดของตัวบอร์ด
3. พายบอร์ดในแม่น้ำ สิ่งสำคัญคือ ห้ามปล่อยให้สายรัดข้อเท้าของคุณยาวเกินไป เพราะอาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดเช่น สายรัดข้อเท้าพัน ติดกับกิ่งไม้ หรือขยะใต้น้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ชูชีพส่วนตัว (PFD)
เราแนะนำให้คุณสวมใส่ชูชีพเสมอเมื่อพายบอร์ด ยกเว้น!! เมื่อคุณกำลังเล่นกระดานโต้คลื่น ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆเค้ามีชูชีพให้คุณได้เลือกทั้งในแบบเสื้อกั๊กหรือจะเป็นแบบเข็มขัดคาดเอว ก็เลือกได้ตามชอบค่ะ
คำถามที่ 10: คุณรักและใส่ใจสิ่งแวดล้อม และท้องทะเลหรือไม่?
Starboard ไม่เพียงแต่สร้างบอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับคุณเท่านั้น แต่ยังสร้างบอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ด้วย
ความคิดริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ มากมายที่ Starboard มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเปลี่ยนขวดพลาสติกรีไซเคิลและอวนจับปลา นำมาทำบอร์ดและอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ฟิน กระเป๋าบอร์ด รวมไปถึงทำเสื้อผ้า การปลูกป่าชายเลนกับโครงการ ซื้อ 1 บอร์ด = ปลูกต้นโกงกาง 1 ต้น เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 1 แสนตันจากระบบนิเวศ ซึ่งคุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ blue.star-board.com
และไม้พายทั้งหมดของ Starboard ที่ให้มาพร้อมกับที่ตะขอเก็บขยะ ที่คุณสามารถใช้มันเกี่ยวเก็บขยะถุงพลาสติกและเศษขยะอื่นๆ ที่ลอยมาตามน้ำขึ้นมาทุกครั้งที่พาย สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่นักพาย SUP แบบพวกเราจะสามารถช่วยให้ผืนน้ำ ท้องทะเล และสิ่งแวดล้อมของพวกเราให้สดใสขึ้น
มาถึงตรงนี้พอที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อบอร์ดที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจบ้างได้แล้วอย่าด่วนตัดสินใจก่อนซื้อโดยไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของคุณ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังนะคะ